Thursday, July 04, 2013

 

ความสนุกสนานในห้องเรียนฟิลิปปินส์


โอเค

หายไปสองสามวัน เนื่องจากปรับตัวปรับใจกับสถานที่และภารกิจที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์

อันที่จริงตอนเริ่มต้นนัทสิมามี topics ในใจเรียบร้อยแล้วว่าจะมาสอนอะไร มาทำวิจัยด้วยอะไร จริงๆ คืออยากทำ Collaborative Research เป็นหลัก (เรื่องสอนไม่ค่อยมั่นใจว่าจะสอนเด็กเค้ารู้เรื่อง)

ปรากฏว่าอาจารย์ที่นี่เป็นอาจารย์เน้นสอน คนนึงสอนประมาณ 18 คาบต่อสัปดาห์อีกทั้งยังมีภาระอื่นๆ อีก ดูค่อนข้างวุ่นวายตลอดเวลา วิจงวิัจัยไม่ค่อยได้ทำ หัวข้อที่เราเสนอไปก็ไม่ถูกใจเค้า (จริงๆ ก็ไม่ค่อยถูกใจเราหรอก แต่พยายามหาเรื่องที่น่าจะสามารถทำได้ในเวลาจำกัด)

ทีนี้พอ Demand ไม่ค่อยตรงกับ Supply เราก็เลยถูกโยนไปมาระหว่าง IE Department กับ Office of Quality Management ซึ่งรับผิดชอบงานด้าน ISO9001 ของมหาวิทยาลัย

วันแรกก็เลยไ่ม่ค่อยมีอะไรทำ อาจารย์สองท่าน (ที่ประจำอยู่ที่ OPQM) เห็นว่าเราันั่งว่างๆ ยังเอา term paper ของเด็กมาให้เราช่วยตรวจ

อืมม นะ นัทสิมาไม่ชอบตรวจการบ้านเป็นชีวิตจิตใจซะด้วยสิ

วันแรกก็เลยเซ็งๆ ไปหน่อยนึง

วันที่สองเริ่มดีขึ้นเพราะมีอาจารย์อีกท่านนึง (ชื่อ Charles) กลับมาจากพักร้อน นัทสิมาเลย hard sale งานวิจัยเต็มที่ ตัดสินใจเปลี่ยน topic ไปทำเรื่อง relationship between cultural, safety attitude and productivity แทน ซึ่งดูแล้วเหมาะกับอาจารย์ท่านนี้ เนื่องจากท่านเพิ่งลาออกจากการเป็น Factory Manager ของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งมา

พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกขึ้นได้ว่า่ส่วนมากอาจารย์ที่นี่เน้น "เก๋า"

แต่ละคนมีประสบการณ์ในสายงานที่ตนเองรับผิดชอบมาไม่น้อยกว่า 5-10 ปี

บางคนเคยอยู่ Intel Philippines มามากกว่า 20 ปี บางคนก็ทำงาน Texas Instruments ฯลฯ

เอาเป็นว่าไม่มีใครเรียนจบตรี-โทแล้วมาเป็นอาจารย์เลยสักคน

เด็ดสุดก็ Engr.Charles นี่แหละ (ที่นี่เค้าให้เกียรติวิศวกร โดยเรียกคำนำหน้านามว่า "วิศวกร...." ตลอด) เป็นอาจารย์มา 14 ปี แล้วลาออกเพื่อไปทำงานใน real industry เพราะอยาก update องค์ความรู้ของตนเอง ก่อนจะกลับมาสอนอีกครั้ง

โอเค กลับมาเรื่องของเราต่อ นัทสิมาก็โน้มน้าวสารพัดจน Engr. Charles ยอมตกปากรับคำว่าจะเป็น co-researcher ให้ แต่การทำวิจัยในโรงงานจริงๆ ของที่นี่ยากมาก ต้องทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ผ่านขั้นตอนมากมาย แต่เค้าก็รับปากว่าจะพยายามเริ่มต้นไว้ให้ได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่เสร็จในระหว่างที่นัทสิมาอยู่

It's Acceptable!

ว่าแล้วนัทสิมาก็ list งานเขียนที่น่าจะเกิดขึ้นที่ีนี่ได้ออกมาประมาณ 7 เรื่อง โปรดเข้าใจว่า It' just a plan ซึ่งอาจจะเสร็จหรือไม่เสร็จ แต่อย่างน้อยมี milestone ไว้ก็ไม่เสียหาย

ตัดภาพกลับมาว่าด้วยเรื่องห้องเรียนอันแสนสนุกสนานในฟิลิปปินส์กันต่อ นัทสิมาได้มีโอกาสเข้าสอนใน 1 ห้องเรียนของนักศึกษาปี 5 สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ (สอน Lean Simulation Workshop)  และบรรยายพิเศษอีกหนึ่งครั้งสำหรับนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ

บรรยากาศต่างกัน แต่โดยรวมแล้วนักศึกษาฟิลิปปินส์ active กว่านักศึกษาไทย และที่สำคัญกล้่าแสดงออกมากกว่าด้วย

หลังการบรรยายพิเศษสำหรับนักศึกษา IT ซึ่งนัทสิมาบรรยายเกี่ยวกับกรอบมาตรฐานคุณวฺุฒิของสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยนิดนึง แล้วตามด้วยงานวิจัยด้าน algorithm design for logistics optimization อีกสองงาน เนื่องจากนักศึกษาที่เข้าฟังส่วนมาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เด็กๆ จึงไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหา

ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่เข้าใจเลยมากกว่า

พอจบการบรรยาย ก็เลยมีตัวแทนนักศึกษาคนนึงขึ้นมากล่าวประมาณว่าพวกเค้าไม่ได้อะไรจากการฟังบรรยายพิเศษครั้งนี้เลย อาจารย์ควรจะไปบรรยายให้กันเองฟังมากกว่ามาอธิบายอะไรก็ไม่รู้ให้พวกผมฟัง!!

นัทสิมาอึ้ง...แต่อาจารย์เค้าไม่อึ้งแฮะ (ท่าทางเจอบ่อย)

ก็พยายามบอกเด็กๆ ไปว่าวันนี้คุณอาจไม่รู้เรื่องหรอก แต่วันนึงมันอาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ โดยเฉพาะเมื่อคุณเรียนในระดับสูงๆ ขึ้นไป

นอกจากเป็นผู้บรรยายแล้ว นัทสิมาก็มีโอกาสไป sit in ในคลาสวิชา Engineering Management และวิชา Industrial Quality Control ซึ่งสนุกสนานมากทั้งสองคลาส เนื่องจากอาจารย์เค้าสอนเก่งกันทุกคน (บอกแล้วไงว่าที่นี่เน้นสอน)

สิ่งที่พบจากทั้งสองคลาสคือเด็กๆ ที่นี่จะถูกคาดหวังให้ "อ่านมาก่อนเข้าเรียน" ถ้าไม่อ่านมาก็จะถูกถามว่า "ไม่อ่านมาใช่ไหม?" ตลอดเวลา

และเนื่องจากอาจารย์มีประสบการณ์นอกห้องเรียน ก็เลยจะมี tips เล็กๆ้น้อยๆ จากประสบการณ์จริงมาสอดแทรกเป็นระยะ

กล่าวโดยสรุปคือ ทั้งการเป็นผู้บรรยายและเป็นผู้รับฟังการบรรยายล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ที่มีค่ายิ่ง

จบการรายงานแต่เพียงเท่านี้!


Labels: , , , ,


Comments: Post a Comment



<< Home

This page is powered by Blogger. Isn't yours?