Saturday, June 23, 2007

 

ใครว่าเป็นอาจารย์แล้วมีเวลามากขึ้น?

ไม่ต้องยกมือครับนักศึกษา..
ประโยคข้างต้นเป็นเพียงประโยคบอกเล่า กล่าวคือไม่ใช่ประโยคคำถามและไม่ได้คิดจะทำโพล

ส่วนมากคนที่พูดประโยคประเภทนี้ออกมานั่นแหละคือคนที่ "ว่า"
ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย? - - แสดงว่าแกนั่นแหละที่เคยคิดก่อนไปอยู่เมืองนอก
ใครว่าเป็นอาจารย์แล้วมีเวลามากขึ้น? - - -ก็ชั้นนี่แหละที่เคยคิดเยี่ยงนั้น

อย่างไรก็ตามคนที่คิดว่า "เป็นอาจารย์แล้วน่าจะมีเวลาว่างมากขึ้น" มิใช่มีเพียงแต่นัทสิมาดอก
หากแต่ Prof. Henry Spearman แห่งสำนักเศรษฐศาสตร์ฮาร์วาร์ด ในเรื่อง Murder at the Margin ก็คิดเช่นนั้น

แม้ว่านัทสิมาจะได้รับความกรุณาให้สอนเพียง 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เวลาที่เหลืออีก 20 ชั่วโมงก็จะหมดไปกับ
- เตรียมการสอน 3 วิชา โดยต้องทำ Slide และส่งให้ห้องจัดพิมพ์ (ซึ่งงานชุกเหลือเกิน)
- เขียนตำรา
- ตรวจการบ้านที่ให้ไว้เยอะมาก
- คุยกับนักศึกษาเรื่อง Term Paper ที่มอบหมายให้ไปทำ
- ประชุมปรับปรุงหลักสูตร
- ทำวิจัย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้คืบหน้าใดๆ เลย

กลับมาบ้านแล้วนัทสิมายังต้อง Up Blog ของวิชาที่สอนอีก 3 Blogs ...โอ๊ทส์!

เขียนไปเขียนมากลายเป็นเรื่อง "บ่น" ไปซะอย่างนั้น
แต่ถึงจะบ่น นัทสิมาก็บ่นด้วย "ความสุขใจ"
งานอาจารย์เป็นงานที่หนัก แต่ก็หนักด้วย pressure ที่มีต่อตนเองและสังคม
ไม่ได้หนักด้วย pressure ที่ต้องการแสวงหาผลกำไรสูงสุด

ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเพดานของ "กำไรสูงสุด" นั้นอยู่ที่ไหน?

This page is powered by Blogger. Isn't yours?