Saturday, July 19, 2008
รุ้งกินน้ำ
วันนี้ตอนขากลับจากมหาวิทยาลัยผมบังเอิญเห็นรุ้งกินน้ำเข้า
บอกตามตรงว่าแอบตื่นเต้นนิดนึง
อาจเป็นเพราะหลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้สังเกตภูมิทัศน์รอบตัวเท่าไหร่ เลยจำไม่ได้ว่าตัวเองเห็นรุ้งกินน้ำครั้งล่าสุดเมื่อใด?
-----------------------------------
ช่วงนี้ผมโดนรังควาญจาก Mobile Marketing ค่อนข้างถี่
ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียว...มันมาเป็นช่วงๆ
ช่วงไหนมีเบอร์แปลกๆ หรือ Private Number มานี่ก็จะระดมกันมาแบบสายแทบไหม้
อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่รู้จะกระเหี้ยนกระหือรืออยากขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับอาจารย์มหาวิทยาลัยจนๆ อย่างผมไปถึงไหน?
พอดีคุณพ่อคุณแม่สอนมาดีครับ
ท่านสอนว่าอย่าพูดคำหยาบกับคนแปลกหน้า
ผมเลยสงบปากสงบคำแล้วอือๆ ออๆ ไปกับพนักงานขายเหล่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำถูกหรือเปล่า? บางทีคนขายเค้าอาจจะอยากให้บอกไปเลยตรงๆ ก็ได้ว่าไม่เอาครับ ไม่สนใจผลิตภัณฑ์ครับ เพื่อที่เขาหรือเธอจะได้ไปทำหน้าที่ของตนกับว่าที่ลูกค้ารายอื่นต่อไป
สมัยหนุ่มๆ ผมเคยห่ามขนาดพูดจากวนประสาทพนักงานเหล่านี้ไปก็หลายครั้ง แต่ไม่หยาบคายนะครับ...บอกแล้วไงว่าคุณพ่อคุณแม่สอนมาดี
ตอนนี้เลิกแล้วครับ ใครโทรมาก็บอกเค้าไปตามจริงว่าเงินเดือนอาจารย์มหาวิทยาลัยวุฒิปริญญาโทมันแค่ 12,600 บาท
บางคนมีถามอีกนะว่า "รวมทุกอย่างแล้วเหรอคะ?"
ไม่อยากบอกเลยว่าถ้ารวมไอ้ที่หักๆ ไปทุกเดือนแล้วเนี่ยมันเหลือน้อยกว่านี้อีกนะครับ
----------------------------------
ตอนที่ตัดสินใจย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ต่างจังหวัด ผมเองก็ทำใจมาแล้วในระดับหนึ่งว่าชีวิตคงไม่เหมือนเดิม
หลักๆ ก็เรื่องรายรับที่จะลดลง สภาพคล่องทางการเงินก็คงไม่ดีเหมือนอยู่กรุงเทพฯ
แต่ก็แอบคิดไว้แล้วเหมือนกันว่าเงินที่หายไปน่าจะชดเชยกลับมาด้วยอะไรบางอย่างที่เงินหาซื้อไม่ได้
บางที..รุ้งกินน้ำที่เห็นวันนี้อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันความเชื่อข้างต้น
"Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors appear"
"ชีวิตก็เหมือนรุ้งกินน้ำ เราต้องการทั้งแสงแดดและสายฝนเพื่อสร้างให้มันมีสีสัน"
บอกตามตรงว่าแอบตื่นเต้นนิดนึง
อาจเป็นเพราะหลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้สังเกตภูมิทัศน์รอบตัวเท่าไหร่ เลยจำไม่ได้ว่าตัวเองเห็นรุ้งกินน้ำครั้งล่าสุดเมื่อใด?
-----------------------------------
ช่วงนี้ผมโดนรังควาญจาก Mobile Marketing ค่อนข้างถี่
ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียว...มันมาเป็นช่วงๆ
ช่วงไหนมีเบอร์แปลกๆ หรือ Private Number มานี่ก็จะระดมกันมาแบบสายแทบไหม้
อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่รู้จะกระเหี้ยนกระหือรืออยากขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับอาจารย์มหาวิทยาลัยจนๆ อย่างผมไปถึงไหน?
พอดีคุณพ่อคุณแม่สอนมาดีครับ
ท่านสอนว่าอย่าพูดคำหยาบกับคนแปลกหน้า
ผมเลยสงบปากสงบคำแล้วอือๆ ออๆ ไปกับพนักงานขายเหล่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำถูกหรือเปล่า? บางทีคนขายเค้าอาจจะอยากให้บอกไปเลยตรงๆ ก็ได้ว่าไม่เอาครับ ไม่สนใจผลิตภัณฑ์ครับ เพื่อที่เขาหรือเธอจะได้ไปทำหน้าที่ของตนกับว่าที่ลูกค้ารายอื่นต่อไป
สมัยหนุ่มๆ ผมเคยห่ามขนาดพูดจากวนประสาทพนักงานเหล่านี้ไปก็หลายครั้ง แต่ไม่หยาบคายนะครับ...บอกแล้วไงว่าคุณพ่อคุณแม่สอนมาดี
ตอนนี้เลิกแล้วครับ ใครโทรมาก็บอกเค้าไปตามจริงว่าเงินเดือนอาจารย์มหาวิทยาลัยวุฒิปริญญาโทมันแค่ 12,600 บาท
บางคนมีถามอีกนะว่า "รวมทุกอย่างแล้วเหรอคะ?"
ไม่อยากบอกเลยว่าถ้ารวมไอ้ที่หักๆ ไปทุกเดือนแล้วเนี่ยมันเหลือน้อยกว่านี้อีกนะครับ
----------------------------------
ตอนที่ตัดสินใจย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ต่างจังหวัด ผมเองก็ทำใจมาแล้วในระดับหนึ่งว่าชีวิตคงไม่เหมือนเดิม
หลักๆ ก็เรื่องรายรับที่จะลดลง สภาพคล่องทางการเงินก็คงไม่ดีเหมือนอยู่กรุงเทพฯ
แต่ก็แอบคิดไว้แล้วเหมือนกันว่าเงินที่หายไปน่าจะชดเชยกลับมาด้วยอะไรบางอย่างที่เงินหาซื้อไม่ได้
บางที..รุ้งกินน้ำที่เห็นวันนี้อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันความเชื่อข้างต้น
"Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors appear"
"ชีวิตก็เหมือนรุ้งกินน้ำ เราต้องการทั้งแสงแดดและสายฝนเพื่อสร้างให้มันมีสีสัน"