Friday, February 29, 2008
Yokoso! Japan
นัทสิมาไปอยู่ญี่ปุ่น 7 วัน
นั่งรถไฟเป็นบ้าเป็นหลัง (เนื่องจากซื้อ JR Pass หรือตั๋วเหมาแบบ 7 วันไปจากเมืองไทย...กลัวไม่คุ้ม)
ตื่น 6 โมงเช้า เข้านอนเกือบเที่ยงคืนทุกวัน
เที่ยว / conference / กิน / ถ่ายรูป / เดิน / ใช้ชีวิตอยู่ในหลายๆ เมือง
Tokyo / Yokohama / Kamakura / Kyoto / Himeji / Hiroshima / Kitakyushu / Fukuoka
กลับมาแล้วก็ยังนั่งงงๆ ว่าทำไปได้ไง?
เอาเหอะ...แล้วจะเล่าให้ฟัง (เรื่อยๆ) ตามหัวข้อต่อไปนี้
- โตเกียวไม่มีหมา
- เป๊ะ! ... เรื่องของ Standardization ในญี่ปุ่น
- Intelligence Manaufacturing System ระบบการผลิตในโลกอนาคตที่ไม่ไกล
- รถไฟ / รถเมล์ / รถราง / รถไฟใต้ดิน
- International Conference เป็นอย่างนี้นี่เอง
- ฮิโรชิม่าในวันฟ้าหม่น
- บ้านน๊อก..บ้านนอก
- Zen
- กิน
- Hostel กับ Hotel
- Backpacker's Alogorithm
- ฯลฯ
ระหว่างนี้ขออนุญาตย่อรูป เลือกรูปสวยๆ จาก trip นี้เพื่อจะมาใช้ประกอบเรื่องราวทีจะทยอยนำมาเล่าให้มิตรรักแฟน blog ได้อ่านกัน
โปรดรอคอยด้วยใจระทึก!
นั่งรถไฟเป็นบ้าเป็นหลัง (เนื่องจากซื้อ JR Pass หรือตั๋วเหมาแบบ 7 วันไปจากเมืองไทย...กลัวไม่คุ้ม)
ตื่น 6 โมงเช้า เข้านอนเกือบเที่ยงคืนทุกวัน
เที่ยว / conference / กิน / ถ่ายรูป / เดิน / ใช้ชีวิตอยู่ในหลายๆ เมือง
Tokyo / Yokohama / Kamakura / Kyoto / Himeji / Hiroshima / Kitakyushu / Fukuoka
กลับมาแล้วก็ยังนั่งงงๆ ว่าทำไปได้ไง?
เอาเหอะ...แล้วจะเล่าให้ฟัง (เรื่อยๆ) ตามหัวข้อต่อไปนี้
- โตเกียวไม่มีหมา
- เป๊ะ! ... เรื่องของ Standardization ในญี่ปุ่น
- Intelligence Manaufacturing System ระบบการผลิตในโลกอนาคตที่ไม่ไกล
- รถไฟ / รถเมล์ / รถราง / รถไฟใต้ดิน
- International Conference เป็นอย่างนี้นี่เอง
- ฮิโรชิม่าในวันฟ้าหม่น
- บ้านน๊อก..บ้านนอก
- Zen
- กิน
- Hostel กับ Hotel
- Backpacker's Alogorithm
- ฯลฯ
ระหว่างนี้ขออนุญาตย่อรูป เลือกรูปสวยๆ จาก trip นี้เพื่อจะมาใช้ประกอบเรื่องราวทีจะทยอยนำมาเล่าให้มิตรรักแฟน blog ได้อ่านกัน
โปรดรอคอยด้วยใจระทึก!
Monday, February 18, 2008
เรื่องชื่นใจ
เทอมนี้นัทสิมา Assign ให้นักศึกษาทำรายงานที่ต้องออกไปวิเคราะห์สภาพความเสี่ยงของโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมต่างๆ จากนั้นก็ให้กลับมาเขียนโครงการว่าจะทำต้องปรับปรุงอะไรเพื่อให้เกิดสภาพความปลอดภัยกับนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ เหล่านั้น
จุดประสงค์หลักคือต้องการ "ยึดโยง" นักศึกษาที่กำลังจะจบออกไปกับชุมชนที่ตนเองเคยอยู่
อีกอย่างหนึ่งคืออยากให้เด็กๆ ของนัทสิมามีสิ่งที่เรียกว่า "จิตอาสา" ติดตัวกันไปไม่มากก็น้อย
เด็กๆ ของนัทสิมาจึงก็กระจายกันออกไปประเมินความเสี่ยงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าง โรงเรียนประถมบ้าง สถานีอนามัยบ้าง และกลับมาพร้อมกับโครงการปรับปรุงสภาพความปลอดภัย
หลังจากตรวจโครงการที่นำเสนอกันมาและอนุมัติไปบางส่วน นักศึกษาบางกลุ่มก็เริ่มลงไปยังพื้นที่จริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการ "ปรับปรุง" จริงๆ
ช่วงต้นเดือน มีนักศึกษาแจ้งว่าจะเข้าไปปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง นัทสิมาจึงเดินทางติดตามไปด้วย (ทั้งๆ ที่คืนก่อนนั่งทำ research paper จนถึงตีสี่)
พอไปถึง ครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนั้นก็เข้ามาขอบคุณกันยกใหญ่ ทำเอานัทสิมาตั้งตัวแทบไม่ทัน
คุณครูขอบคุณแล้วก็ขอบคุณอีก โค้งแล้วโค้งอีก จนนัทสิมาเกรงใจ
นั่นนับเป็นเรื่องชื่นใจเรื่องที่หนึ่ง
เป็นเรื่องชื่นใจที่เงินเดือนหลายหมื่นบาทในกรุงเทพฯ หาซื้อไม่ได้
......................................................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สอง
paper ของนัทสิมา (อันที่ทำถึงตีสี่นั่นแหละ) ได้รับการตอบรับให้ไปนำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แหละ
งั้นเป้าหมายประจำปีนี้ก็บรรลุไปข้อนึง (เล็กๆ) แล้วสิเนี่ย?
.......................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สาม
ก่อนจะเป็น paper ที่ได้รับการคัดเลือกไปญี่ปุ่นนั้น นัทสิมาได้ Contribute ผลการทดลองบางส่วนเพื่อเขียนเป็นบทความวิจัยเล็กๆ แล้วก็ (โดน Supervisor บังคับ) ให้ส่งเข้าประกวดในงานประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย
วันพฤหัสบดีที่แล้วก็ได้จัดการไปนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจากสาขาวิชาต่างๆ
ปรากฎว่ามันได้รางวัลนำเสนอผลงานวิจัยยอดเยี่ยม!
........................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สี่
วันศุกร์ที่ผ่านมาสำนักงานผู้ประสานงานโครงการของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้มาตรวจประเมินความก้าวหน้าของงานวิจัยที่นัทสิมาและนักศึกษา 2 กลุ่มได้รับทุนวิจัยมาทำร่วมกับวิสาหกิจชุมชน
อาจเป็นเพราะได้นักศึกษาที่เอาการเอางาน งานที่ออกมาก็เลยมีปริมาณความก้าวหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ผู้ประเมินฯ เลยชมเชยนัทสิมาและคณะสามเวลาหลังอาหาร แถมยังบอกอีกว่าต่อไปภาควิชาที่นัทสิมาสอนอยู่จะต้องมีชื่อเสียงระดับประเทศ
ยกยอกันขนาดนั้นเลยเชียว...(เขินนะเนี่ย)
....................................
เรื่องชื่นใจทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่ช่วยให้นัทสิมามั่นใจขึ้นว่าข้อความ "I will change the world" ที่แปะอยู่ในคอลัมน์ข้างๆ นั้นจะเป็นจริงได้
ก็ในเมื่อคนเราต่างก็มี "โลก" หลายใบซ้อนทับกันอยู่
นัทสิมาจึงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง "โลก" จึงเป็นสิ่งที่ทำได้โดยการค่อยๆ เปลี่ยน "โลก" ใบเล็กๆ ที่แวดล้อมตัวเองอยู่ก่อน
ในขณะเดียวกันก็ต้องเปลี่ยน "คน" ให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะไปเปลี่ยนแปลง "โลก" ของพวกเขาให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต
ยืนยันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนอีกครั้ง ณ ที่นี้
I will change the world!
จุดประสงค์หลักคือต้องการ "ยึดโยง" นักศึกษาที่กำลังจะจบออกไปกับชุมชนที่ตนเองเคยอยู่
อีกอย่างหนึ่งคืออยากให้เด็กๆ ของนัทสิมามีสิ่งที่เรียกว่า "จิตอาสา" ติดตัวกันไปไม่มากก็น้อย
เด็กๆ ของนัทสิมาจึงก็กระจายกันออกไปประเมินความเสี่ยงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าง โรงเรียนประถมบ้าง สถานีอนามัยบ้าง และกลับมาพร้อมกับโครงการปรับปรุงสภาพความปลอดภัย
หลังจากตรวจโครงการที่นำเสนอกันมาและอนุมัติไปบางส่วน นักศึกษาบางกลุ่มก็เริ่มลงไปยังพื้นที่จริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการ "ปรับปรุง" จริงๆ
ช่วงต้นเดือน มีนักศึกษาแจ้งว่าจะเข้าไปปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง นัทสิมาจึงเดินทางติดตามไปด้วย (ทั้งๆ ที่คืนก่อนนั่งทำ research paper จนถึงตีสี่)
พอไปถึง ครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนั้นก็เข้ามาขอบคุณกันยกใหญ่ ทำเอานัทสิมาตั้งตัวแทบไม่ทัน
คุณครูขอบคุณแล้วก็ขอบคุณอีก โค้งแล้วโค้งอีก จนนัทสิมาเกรงใจ
นั่นนับเป็นเรื่องชื่นใจเรื่องที่หนึ่ง
เป็นเรื่องชื่นใจที่เงินเดือนหลายหมื่นบาทในกรุงเทพฯ หาซื้อไม่ได้
......................................................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สอง
paper ของนัทสิมา (อันที่ทำถึงตีสี่นั่นแหละ) ได้รับการตอบรับให้ไปนำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แหละ
งั้นเป้าหมายประจำปีนี้ก็บรรลุไปข้อนึง (เล็กๆ) แล้วสิเนี่ย?
.......................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สาม
ก่อนจะเป็น paper ที่ได้รับการคัดเลือกไปญี่ปุ่นนั้น นัทสิมาได้ Contribute ผลการทดลองบางส่วนเพื่อเขียนเป็นบทความวิจัยเล็กๆ แล้วก็ (โดน Supervisor บังคับ) ให้ส่งเข้าประกวดในงานประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย
วันพฤหัสบดีที่แล้วก็ได้จัดการไปนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจากสาขาวิชาต่างๆ
ปรากฎว่ามันได้รางวัลนำเสนอผลงานวิจัยยอดเยี่ยม!
........................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สี่
วันศุกร์ที่ผ่านมาสำนักงานผู้ประสานงานโครงการของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้มาตรวจประเมินความก้าวหน้าของงานวิจัยที่นัทสิมาและนักศึกษา 2 กลุ่มได้รับทุนวิจัยมาทำร่วมกับวิสาหกิจชุมชน
อาจเป็นเพราะได้นักศึกษาที่เอาการเอางาน งานที่ออกมาก็เลยมีปริมาณความก้าวหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ผู้ประเมินฯ เลยชมเชยนัทสิมาและคณะสามเวลาหลังอาหาร แถมยังบอกอีกว่าต่อไปภาควิชาที่นัทสิมาสอนอยู่จะต้องมีชื่อเสียงระดับประเทศ
ยกยอกันขนาดนั้นเลยเชียว...(เขินนะเนี่ย)
....................................
เรื่องชื่นใจทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่ช่วยให้นัทสิมามั่นใจขึ้นว่าข้อความ "I will change the world" ที่แปะอยู่ในคอลัมน์ข้างๆ นั้นจะเป็นจริงได้
ก็ในเมื่อคนเราต่างก็มี "โลก" หลายใบซ้อนทับกันอยู่
นัทสิมาจึงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง "โลก" จึงเป็นสิ่งที่ทำได้โดยการค่อยๆ เปลี่ยน "โลก" ใบเล็กๆ ที่แวดล้อมตัวเองอยู่ก่อน
ในขณะเดียวกันก็ต้องเปลี่ยน "คน" ให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะไปเปลี่ยนแปลง "โลก" ของพวกเขาให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต
ยืนยันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนอีกครั้ง ณ ที่นี้
I will change the world!
Wednesday, February 06, 2008
To Do List 2008
(หมายเหตุ - การตั้งเป้าหมายประจำปีของชีวิตในช่วงต้นปี นัทสิมาจะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในทุกๆ ปีเพราะดูๆ แล้วน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย อย่างน้อยก็ถือว่าเป็น milestone ในแต่ละช่วงของชีวิต)
เป้าหมายชีวิตของนัทสิมาประจำปี พ.ศ. 2551
1) เป้าหมายทางวิชาการ
1.1) มีผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ อย่างน้อย 2 เรื่อง
1.2) มีผลงานที่ได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ 1 เรื่อง
1.3) มีผลงานที่ได้รับการพิจารณาให้ตีพิมพ์หรือนำเสนอในระดับประเทศ 2 เรื่อง
1.4) มีเอกสารประกอบการสอน / ตำรา อย่างน้อย 2 เล่ม
1.5) ได้รับทุนวิจัย / ทุนการศึกษา / ทุนอื่นๆ มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 200,000 บาท
2) เป้าหมายด้าน Social Responsibility
2.1) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ/คณะทำงานระดับจังหวัด อย่างน้อย 2 คณะทำงาน
2.2) มีภาระงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการวิชาการชุมชน ไม่น้อยกว่า 400 ชั่วโมง
2.3) ขออนุมัติเปิดศูนย์บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยให้ได้
2.4) ปฏิเสธถุงพลาสติกจากผู้ขายให้ได้มากกว่า 100 ครั้ง
3) เป้าหมายด้านคุณภาพชีวิตและจิตใจ
3.1) ลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) ลงให้เหลือ 25
3.2) ขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง
3.3) ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ปีละ 1 ครั้ง
3.4) ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
3.5) ปีนี้ต้องกลับไปวิ่งมินิมาราธอนให้ได้!
3.6) ไม่ลืมที่จะฝึกจิตและเติมความรู้ทางธรรมอยู่เสมอ
4) เป้าหมายด้านเศรษฐกิจ&ครอบครัว
4.1) มีเงินออมเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2550 (ไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ)
4.2) โทร.หาคุณแม่ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
4.3) หอบงานกลับมาทำที่บ้านน้อยกว่า 3 วันต่อสัปดาห์
4.4) จัด trip ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี
5) เป้าหมายด้าน Blog (มีด้วย)
5.1) ความถี่ในการอัพบล๊อกเฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน
5.2) เพิ่มยอดแฟนคลับ (มีด้วย!!) 50%
เป้าหมายชีวิตของนัทสิมาประจำปี พ.ศ. 2551
1) เป้าหมายทางวิชาการ
1.1) มีผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ อย่างน้อย 2 เรื่อง
1.2) มีผลงานที่ได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ 1 เรื่อง
1.3) มีผลงานที่ได้รับการพิจารณาให้ตีพิมพ์หรือนำเสนอในระดับประเทศ 2 เรื่อง
1.4) มีเอกสารประกอบการสอน / ตำรา อย่างน้อย 2 เล่ม
1.5) ได้รับทุนวิจัย / ทุนการศึกษา / ทุนอื่นๆ มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 200,000 บาท
2) เป้าหมายด้าน Social Responsibility
2.1) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ/คณะทำงานระดับจังหวัด อย่างน้อย 2 คณะทำงาน
2.2) มีภาระงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการวิชาการชุมชน ไม่น้อยกว่า 400 ชั่วโมง
2.3) ขออนุมัติเปิดศูนย์บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยให้ได้
2.4) ปฏิเสธถุงพลาสติกจากผู้ขายให้ได้มากกว่า 100 ครั้ง
3) เป้าหมายด้านคุณภาพชีวิตและจิตใจ
3.1) ลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) ลงให้เหลือ 25
3.2) ขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง
3.3) ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ปีละ 1 ครั้ง
3.4) ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
3.5) ปีนี้ต้องกลับไปวิ่งมินิมาราธอนให้ได้!
3.6) ไม่ลืมที่จะฝึกจิตและเติมความรู้ทางธรรมอยู่เสมอ
4) เป้าหมายด้านเศรษฐกิจ&ครอบครัว
4.1) มีเงินออมเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2550 (ไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ)
4.2) โทร.หาคุณแม่ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
4.3) หอบงานกลับมาทำที่บ้านน้อยกว่า 3 วันต่อสัปดาห์
4.4) จัด trip ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี
5) เป้าหมายด้าน Blog (มีด้วย)
5.1) ความถี่ในการอัพบล๊อกเฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน
5.2) เพิ่มยอดแฟนคลับ (มีด้วย!!) 50%