Monday, January 03, 2011

 

สรุปผลการดำเนินชีวิตประจำปี 2553

ปี 2553 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความยุ่งยากลำบากพอสมควร นัทสิมาคอนเฟิร์มเลยว่าการตั้งเป้าหมายประจำปีไว้นั้นมีคุณูปการอย่างมาก อย่างน้อยแม้เราจะทำไม่ได้แต่การที่สายตายังคงจับจ้องที่เป้าหมายก็ทำให้เราเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ไม่มากก็น้อย

ก่อนจะสรุปภาพรวมประจำปี ขอจัดอันดับเหตุการณ์แห่งปีของตัวเองไว้หน่อย ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีประสบการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น ดังนี้

1. เป็นกุ้งยิง 3 ครั้ง- เกิดมาเพิ่งจะเคยเป็นกุ้งยิงก็อีตอนอายุปาเข้าไปสามสิบกว่าๆ นี่แหละ ขอบอกว่าตอนเป็นครั้งแรกทรมานมาก ครั้งที่สองทรมานกว่า ส่วนครั้งที่สามเริ่มรู้สึก "ชิลล์" (อาจเป็นเพราะ "ชิน") สาเหตุน่าจะมาจากบางคืนที่เหนื่อยมากเลยไม่ได้ล้างหน้าอาบน้ำแล้วนอนหลับไป ส่วนการรักษาที่ดีที่สุดนั้น นัทสิมาแนะนำให้กิน dicloxacillin 500 mg + หยอดตาด้วย DexOpt วันละสองครั้ง แล้วอย่าไปยุ่งกับมัน

2. เดินทางด้วยรถไฟร่วม 20,000 กม. - พอดีมีอบรมคอร์สระยะยาว (10 เดือน) ที่กทม. เลยกลายเป็นลูกค้าประจำของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำให้รู้ว่าตู้นอนมีสองแบบคือแบบปกติ กับแบบ JR โดยถ้าเราได้ตู้นอน JR แนะนำให้นอนเตียงบน เพราะนอกจากจะมีความกว้างเทียบเท่าเตียงล่างแล้ว เตียงบนจะได้ที่วางของขนาดกว้างใหญ่บนหัวเตียงอีกด้วย

3. ส่งตัวเองเข้าประกวดรางวัลที่ปรึกษาดีเด่นแห่งชาติในสาขาวิสาหกิจชุมชน - ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย แต่ปรากฏว่าสาขานี้ไม่มีการประกาศผลรางวัลชนะเลิศซะงั้น? แต่อย่างน้อยนัทสิมาก็ภูมิใจที่เป็น candidate ที่อายุน้อยที่สุดแหละ

4. ตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง - ยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัทหรอกนะ แต่มีเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว มีลูกค้าแล้ว และปิด job ไปแล้วด้วยผลงานระดับดีเยี่ยม! ปี 2554 กำลังรอดูอยู่ว่าถ้ามีงานในปริมาณที่มากพอก็คงจะจดทะเบียนบริษัทจริงๆ จังๆ

เอาล่ะ--เข้าสู่สรุปผลซะที
เป้าหมายด้านวิชาการ ประจำปี 2553
1. เรียนจบ PhD ให้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2553
สรุปว่าเรียนจบจนได้ แต่เป็นเดือนตุลาคม 2553 ช้ากว่าที่วางแผนไว้ร่วม 6 เดือน
2. ได้รับทุนไปทำวิจัยที่ Austria ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553
ไม่ได้ไป เพราะต้องเลือกระหว่างจะจบหรือจะไปออสเตรีย สรุปว่าเลือกเรียนให้จบก่อนค่อยไปทำ post doc ละกัน
3. ได้รับทุนวิจัยรวมกันตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท
เป็นปีที่ไม่มีทุนวิจัยเลย! นัทสิมากำลังคิดว่าการตั้งเป้าหมายเรื่องมูลค่าทุนวิจัยนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่? เพราะพอเรา "คาดหวัง" ในแง่ของมูลค่าทุน ทำให้เราละเลยประเด็นสำคัญที่ว่าการวิจัยคือการแสวงหาความจริงแล้วกลายร่างเป็น "นักรับจ้างวิจัย" ไปซะ อย่างไรก็ตามปีที่แล้วมีโครงการที่ทำร่วมกับภาครัฐมูลค่า 1,500,000 บาทอยู่ ซึ่งจะกล้อมแกล้มนับเป็นทุนวิจัยดีไหมหนอ?
4. มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติไม่น้อยกว่า 2 เรื่องภายในเดือนมิถุนายน 2553
เป้าหมายนี้ดีเลย์ตามเป้าหมายแรก
5. ได้รับการตอบรับให้ไปนำเสนอผลงานวิชาการที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลี
ได้ไปจริงๆ ด้วย!! นี่เป็นมหัศจรรย์ของการตั้งเป้าหมายเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่มีเป้าหมายนี้ก็จะเฉยชาเฉื่อยแฉะไปเรื่อย อาจจะเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำ
6. จดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ของตัวเองให้ได้ 1 รายการขึ้นไป
ไม่ได้จดเอง แต่เป็น Agent ให้กับผู้ประกอบการรายหนึ่งจดแจ้งลิขสิทธิ์ไปทั้งสิ้นกว่า 20 รายการ ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่อีกประการหนึ่งของปีนี้
7. มีตำราและเอกสารประกอบการสอนฉบับสมบูรณ์อย่างละ 1 เล่ม
ตำราเรียบร้อยแล้ว ส่งสำนักพิมพ์เพื่อให้พิจารณาอยู่ ส่วนเอกสารประกอบการสอนนั้นยังขาดอีกประมาณ 6-7 บทเลยเชียว ซึ่งสมควรจะต้องแล้วเสร็จภายในภาคการศึกษานี้เพื่อจะได้อ้างสิทธิในการกำหนดตำแหน่งทางวิชาการต่อไป
8. มีชั่วโมงบริการวิชาการชุมชนมากกว่า 365 ชั่วโมง
น่าจะทะลุเป้า...ปีนี้ออก consult เยอะแยะมากมาย

เป้าหมายของ Lab (หมายเหตุ- นัทสิมารักษาการ Lab Manager ของมหาวิทยาลัยอยู่)
1. มีรายรับจากการให้บริการตรวจวิเคราะห์มากกว่า 500,000 บาทภายในเดือนตุลาคม 2553
ได้ประมาณ 170,000 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 50,000 บาท นับว่าโอเคพอสมควรเมื่อคิดว่าต้องต่อสู้กับเจ้าตลาดเก่า ปีนี้อาจต้องทำ marketing เพิ่มเติม
2. ลดเวลาในการตรวจวิเคราะห์ทุกไอเท็มรวมถึงการทำรายงานผลการตรวจให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่รับชิ้นงานตัวอย่าง
ทำได้ในการตรวจบางรายการ ที่ทำได้ดีที่สุดคือสามารถส่งผลได้ภายใน 10 วันทำการในรายการตรวจที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร แต่จริงๆ รู้แล้วว่าช้าที่ห้องปฏิบัติการเคมี ปีหน้าต้องประชุมทีมงานสักครั้งแล้วแจ้ง KPI ตัวนี้ไป

เป้าหมายด้านคุณภาพชีวิต
1. ขูดหินปูน/ตรวจสุขภาพฟันให้ได้ปีละ 2 ครั้ง --ไม่ได้ขูดหินปูนเลย
2.ผลการตรวจสุขภาพประจำปีอยู่ในเกณฑ์ปกติทุกรายการ --ไม่ได้ตรวจสุขภาพเลย
3. กลับบ้านไม่เกิน 18:00 น. ไม่น้อยกว่า 20 วันต่อเดือน --คิดว่าหวุดหวิดเกือบผ่าน :P

กล่าวโดยสรุปคือ มีหลายเป้าหมายที่ไม่ผ่าน แต่ในภาพรวมแล้วนัทสิมาค่อนข้างพอใจกับผลที่ออกมา

ก็คงเหมือนกับที่นักกอล์ฟทีมชาติไทยคนนึงกล่าวไว้นั่นแหละว่า

"เวลาตีลูก ต้องเล็งไปที่ดวงจันทร์ เพราะแม้ลูกจะไปไม่ถึงดวงจันทร์ อย่างน้อย...มันก็ตกอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว"


This page is powered by Blogger. Isn't yours?