Monday, February 18, 2008

 

เรื่องชื่นใจ

เทอมนี้นัทสิมา Assign ให้นักศึกษาทำรายงานที่ต้องออกไปวิเคราะห์สภาพความเสี่ยงของโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมต่างๆ จากนั้นก็ให้กลับมาเขียนโครงการว่าจะทำต้องปรับปรุงอะไรเพื่อให้เกิดสภาพความปลอดภัยกับนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ เหล่านั้น

จุดประสงค์หลักคือต้องการ "ยึดโยง" นักศึกษาที่กำลังจะจบออกไปกับชุมชนที่ตนเองเคยอยู่

อีกอย่างหนึ่งคืออยากให้เด็กๆ ของนัทสิมามีสิ่งที่เรียกว่า "จิตอาสา" ติดตัวกันไปไม่มากก็น้อย

เด็กๆ ของนัทสิมาจึงก็กระจายกันออกไปประเมินความเสี่ยงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าง โรงเรียนประถมบ้าง สถานีอนามัยบ้าง และกลับมาพร้อมกับโครงการปรับปรุงสภาพความปลอดภัย

หลังจากตรวจโครงการที่นำเสนอกันมาและอนุมัติไปบางส่วน นักศึกษาบางกลุ่มก็เริ่มลงไปยังพื้นที่จริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการ "ปรับปรุง" จริงๆ

ช่วงต้นเดือน มีนักศึกษาแจ้งว่าจะเข้าไปปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง นัทสิมาจึงเดินทางติดตามไปด้วย (ทั้งๆ ที่คืนก่อนนั่งทำ research paper จนถึงตีสี่)

พอไปถึง ครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนั้นก็เข้ามาขอบคุณกันยกใหญ่ ทำเอานัทสิมาตั้งตัวแทบไม่ทัน

คุณครูขอบคุณแล้วก็ขอบคุณอีก โค้งแล้วโค้งอีก จนนัทสิมาเกรงใจ

นั่นนับเป็นเรื่องชื่นใจเรื่องที่หนึ่ง

เป็นเรื่องชื่นใจที่เงินเดือนหลายหมื่นบาทในกรุงเทพฯ หาซื้อไม่ได้
......................................................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สอง

paper ของนัทสิมา (อันที่ทำถึงตีสี่นั่นแหละ) ได้รับการตอบรับให้ไปนำเสนอในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แหละ

งั้นเป้าหมายประจำปีนี้ก็บรรลุไปข้อนึง (เล็กๆ) แล้วสิเนี่ย?
.......................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สาม

ก่อนจะเป็น paper ที่ได้รับการคัดเลือกไปญี่ปุ่นนั้น นัทสิมาได้ Contribute ผลการทดลองบางส่วนเพื่อเขียนเป็นบทความวิจัยเล็กๆ แล้วก็ (โดน Supervisor บังคับ) ให้ส่งเข้าประกวดในงานประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย

วันพฤหัสบดีที่แล้วก็ได้จัดการไปนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจากสาขาวิชาต่างๆ

ปรากฎว่ามันได้รางวัลนำเสนอผลงานวิจัยยอดเยี่ยม!
........................................
เรื่องชื่นใจเรื่องที่สี่

วันศุกร์ที่ผ่านมาสำนักงานผู้ประสานงานโครงการของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้มาตรวจประเมินความก้าวหน้าของงานวิจัยที่นัทสิมาและนักศึกษา 2 กลุ่มได้รับทุนวิจัยมาทำร่วมกับวิสาหกิจชุมชน

อาจเป็นเพราะได้นักศึกษาที่เอาการเอางาน งานที่ออกมาก็เลยมีปริมาณความก้าวหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ผู้ประเมินฯ เลยชมเชยนัทสิมาและคณะสามเวลาหลังอาหาร แถมยังบอกอีกว่าต่อไปภาควิชาที่นัทสิมาสอนอยู่จะต้องมีชื่อเสียงระดับประเทศ

ยกยอกันขนาดนั้นเลยเชียว...(เขินนะเนี่ย)
....................................

เรื่องชื่นใจทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่ช่วยให้นัทสิมามั่นใจขึ้นว่าข้อความ "I will change the world" ที่แปะอยู่ในคอลัมน์ข้างๆ นั้นจะเป็นจริงได้

ก็ในเมื่อคนเราต่างก็มี "โลก" หลายใบซ้อนทับกันอยู่

นัทสิมาจึงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง "โลก" จึงเป็นสิ่งที่ทำได้โดยการค่อยๆ เปลี่ยน "โลก" ใบเล็กๆ ที่แวดล้อมตัวเองอยู่ก่อน

ในขณะเดียวกันก็ต้องเปลี่ยน "คน" ให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะไปเปลี่ยนแปลง "โลก" ของพวกเขาให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต

ยืนยันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนอีกครั้ง ณ ที่นี้

I will change the world!

Comments: Post a Comment



<< Home

This page is powered by Blogger. Isn't yours?