Monday, September 25, 2006
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับผลกระทบต่อนัทสิมา
จั่วหัวช่วงต้นประโยคดูขึงขังดี แต่ถ้าใครอ่านจนถึงท้ายประโยคก็คงจะบอกว่า
"เรื่องเรื่อยเปื่อยของนัทสิมา เอพพิโสด 2 อ่ะดิ?"
แหม...ไม่ขนาดนั้น
-------------------------------
ดึกๆ คืนวันที่ 19 กันยายน ปี 49 นัทสิมาดูคุยคุ้ยข่าวไปโทรศัพท์ไปพลาง ไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติในสีหน้าและท่าทางของพิธีกรคู่หูเลยสักนิด
คุยคุ้ยข่าวจบแล้ว
มีรายการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอะไรสักอย่าง..นัทสิมายังคงฟังเพื่อนปรับทุกข์เรื่องจะเปลี่ยนงานผ่านหูฟังโทรศัพท์มือถือ
แว้บ! หน้าเหลี่ยมๆ ของท่านนายกฯ ทักษิณก็โผล่ออกมา พร้อมกับตัวหนังสือโปรยด้านล่าง
"ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน"
นัทสิมานึกในใจ...ปฏิวัติแหง พลางหยิบรีโมทเปลี่ยนสถานีไปเรื่อยๆ
ช่อง 3 ละคร
ช่อง 5 เพลงพระราชนิพนธ์
ช่อง 7 ละคร
ITV โฆษณา
นัทสิมานึกในใจ...ตาฝาดรึเปล่าฟะ?
พลัน ! รายการปกติทั้งหลายก็กลายเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ตามช่อง 5 ไปหมด นัทสิมาลนลานรีบเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าสู่เวบไซต์ที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลที่สุด
"ขณะนี้ขบวนรถถังได้บุกเข้ายึดทำเนียบแล้ว" พาดหัวในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ว่าไว้อย่างนั้น
----------------------------------------------------
เช้าวันที่ 20 กันยายน ปี 49
นัทสิมาโทรเช็คต้นสังกัดว่ายังต้องไปสอนหนังสือที่ระยองหรือไม่?
คำตอบคือ ถ้าทางโน้นไม่หยุดก็ให้ไปตามปกติ
ปรากฏว่าที่ระยองไม่หยุดอ่ะ...นัทสิมาเลยต้องเดินทางด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ด้วยกังวลว่าหากคณะปฏิรูปประกาศเคอร์ฟิว นัทสิมาจะกลับบ้านได้ไหม?
ระหว่างทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี นัทสิมาพบทหารจำนวนหนึ่งยืนอยู่บริเวณทางแยกเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
ได้กลิ่นอายและบรรยากาศของการรัฐประหารกรุ่นๆ
นัทสิมานึกในใจ...จะได้กลับบ้านไหม?
------------------------------------------
คนส่วนใหญ่รู้สึก "โล่งอก" ที่มีการรัฐประหาร
ไม่ว่าใครจะชอบหรือเชียร์ฝ่ายใดก็ตาม
การรัฐประหารเสมือนเป็นตัวหยุดความขัดแย้งและความรุนแรงในสังคมที่กำลังจะก่อตัวเป็นพายุลูกใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
------------------------------------------
21 กันยายน 2549
นัทสิมาเดินออกจากสนามบินเชียงใหม่พร้อมๆ กับชายผิวขาวร่างท้วมคนหนึ่ง
ใครหลายคนยกมือไหว้ทักทายชายคนดังกล่าว
ใครบางคนแอบกระซิบว่า ท่านสส. มาคราวนี้ไม่มีผู้ติดตามเหมือนเคย
ทหารที่สนามบินเชียงใหม่ดูคึกคักและขึงขังกว่าในกรุงเทพฯ มาก
ทหารที่กรุงเทพแม้จะถือปืน แต่ก็พอดูออกว่าไม่ได้บรรจุกระสุน
ทหารที่เชียงใหม่ไม่เพียงแต่จะบรรจุกระสุนไว้ในแมกกาซีนเท่านั้น ยังมีการพาดกระสุนเป็นตับเหมือนแรมโบ้อีกต่างหาก!
-----------------------------------------
22 กันยายน 2549
แท็กซี่สนามบินบอกนัทสิมาว่าทหารทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ท่านนายกทักษิณจะได้พักผ่อน
ท่านนายกจะได้ลงจากอำนาจอย่างมีเกียรติที่โดนทหารทำรัฐประหาร
...ไม่ใช่โดนนายสนธิอะไรก็ไม่รู้มาด่าไล่ปาวๆ
ตรรกะง่ายๆ ก็คือ
1. แม้ว่าคนเชียงใหม่ชอบทักษิณ แต่คนเชียงใหม่ก็รักสงบ
2. การรัฐประหารทำให้ประเทศสงบ
3. ดังนั้น คนเชียงใหม่ชอบการรัฐประหาร
------------------------------------
นัทสิมาบอกไม่ถูกว่าเห็นด้วยกับการรัฐประหารหรือไม่?
ในแง่หนึ่ง นัทสิมาชื่นชมในประสิทธิภาพของยุทธศาสตร์ที่คณะปฏิรูปฯใช้
ในแง่หนึ่ง นัทสิมาค่อนข้างโล่งใจที่จะไม่เกิดการปะทะระหว่างขั้วความขัดแย้ง
แต่ในอีกแง่หนึ่ง การรัฐประหารไม่อาจจะก่อให้เกิด "การเรียนรู้" ที่จะเติบโตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
-----------------------------------
อาจารย์ฝรั่งชาวอังกฤษของนัทสิมาเคยบอกไว้ว่า
"....ในการเขียน writing นั้น คุณจะเขียนอะไรออกมาก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากให้คนอื่น"เชื่อ" ในสิ่งที่คุณเขียน
.....คุณต้อง "เชื่อ" ในสิ่งนั้นก่อน"
เอาเป็นว่า ณ วันนี้
นัทสิมายังไม่เชื่อว่ารัฐประหารเป็นสิ่งที่พึงกระทำในระบอบประชาธิปไตย
"เรื่องเรื่อยเปื่อยของนัทสิมา เอพพิโสด 2 อ่ะดิ?"
แหม...ไม่ขนาดนั้น
-------------------------------
ดึกๆ คืนวันที่ 19 กันยายน ปี 49 นัทสิมาดูคุยคุ้ยข่าวไปโทรศัพท์ไปพลาง ไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติในสีหน้าและท่าทางของพิธีกรคู่หูเลยสักนิด
คุยคุ้ยข่าวจบแล้ว
มีรายการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอะไรสักอย่าง..นัทสิมายังคงฟังเพื่อนปรับทุกข์เรื่องจะเปลี่ยนงานผ่านหูฟังโทรศัพท์มือถือ
แว้บ! หน้าเหลี่ยมๆ ของท่านนายกฯ ทักษิณก็โผล่ออกมา พร้อมกับตัวหนังสือโปรยด้านล่าง
"ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน"
นัทสิมานึกในใจ...ปฏิวัติแหง พลางหยิบรีโมทเปลี่ยนสถานีไปเรื่อยๆ
ช่อง 3 ละคร
ช่อง 5 เพลงพระราชนิพนธ์
ช่อง 7 ละคร
ITV โฆษณา
นัทสิมานึกในใจ...ตาฝาดรึเปล่าฟะ?
พลัน ! รายการปกติทั้งหลายก็กลายเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ตามช่อง 5 ไปหมด นัทสิมาลนลานรีบเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าสู่เวบไซต์ที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลที่สุด
"ขณะนี้ขบวนรถถังได้บุกเข้ายึดทำเนียบแล้ว" พาดหัวในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ว่าไว้อย่างนั้น
----------------------------------------------------
เช้าวันที่ 20 กันยายน ปี 49
นัทสิมาโทรเช็คต้นสังกัดว่ายังต้องไปสอนหนังสือที่ระยองหรือไม่?
คำตอบคือ ถ้าทางโน้นไม่หยุดก็ให้ไปตามปกติ
ปรากฏว่าที่ระยองไม่หยุดอ่ะ...นัทสิมาเลยต้องเดินทางด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ด้วยกังวลว่าหากคณะปฏิรูปประกาศเคอร์ฟิว นัทสิมาจะกลับบ้านได้ไหม?
ระหว่างทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี นัทสิมาพบทหารจำนวนหนึ่งยืนอยู่บริเวณทางแยกเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
ได้กลิ่นอายและบรรยากาศของการรัฐประหารกรุ่นๆ
นัทสิมานึกในใจ...จะได้กลับบ้านไหม?
------------------------------------------
คนส่วนใหญ่รู้สึก "โล่งอก" ที่มีการรัฐประหาร
ไม่ว่าใครจะชอบหรือเชียร์ฝ่ายใดก็ตาม
การรัฐประหารเสมือนเป็นตัวหยุดความขัดแย้งและความรุนแรงในสังคมที่กำลังจะก่อตัวเป็นพายุลูกใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
------------------------------------------
21 กันยายน 2549
นัทสิมาเดินออกจากสนามบินเชียงใหม่พร้อมๆ กับชายผิวขาวร่างท้วมคนหนึ่ง
ใครหลายคนยกมือไหว้ทักทายชายคนดังกล่าว
ใครบางคนแอบกระซิบว่า ท่านสส. มาคราวนี้ไม่มีผู้ติดตามเหมือนเคย
ทหารที่สนามบินเชียงใหม่ดูคึกคักและขึงขังกว่าในกรุงเทพฯ มาก
ทหารที่กรุงเทพแม้จะถือปืน แต่ก็พอดูออกว่าไม่ได้บรรจุกระสุน
ทหารที่เชียงใหม่ไม่เพียงแต่จะบรรจุกระสุนไว้ในแมกกาซีนเท่านั้น ยังมีการพาดกระสุนเป็นตับเหมือนแรมโบ้อีกต่างหาก!
-----------------------------------------
22 กันยายน 2549
แท็กซี่สนามบินบอกนัทสิมาว่าทหารทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ท่านนายกทักษิณจะได้พักผ่อน
ท่านนายกจะได้ลงจากอำนาจอย่างมีเกียรติที่โดนทหารทำรัฐประหาร
...ไม่ใช่โดนนายสนธิอะไรก็ไม่รู้มาด่าไล่ปาวๆ
ตรรกะง่ายๆ ก็คือ
1. แม้ว่าคนเชียงใหม่ชอบทักษิณ แต่คนเชียงใหม่ก็รักสงบ
2. การรัฐประหารทำให้ประเทศสงบ
3. ดังนั้น คนเชียงใหม่ชอบการรัฐประหาร
------------------------------------
นัทสิมาบอกไม่ถูกว่าเห็นด้วยกับการรัฐประหารหรือไม่?
ในแง่หนึ่ง นัทสิมาชื่นชมในประสิทธิภาพของยุทธศาสตร์ที่คณะปฏิรูปฯใช้
ในแง่หนึ่ง นัทสิมาค่อนข้างโล่งใจที่จะไม่เกิดการปะทะระหว่างขั้วความขัดแย้ง
แต่ในอีกแง่หนึ่ง การรัฐประหารไม่อาจจะก่อให้เกิด "การเรียนรู้" ที่จะเติบโตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
-----------------------------------
อาจารย์ฝรั่งชาวอังกฤษของนัทสิมาเคยบอกไว้ว่า
"....ในการเขียน writing นั้น คุณจะเขียนอะไรออกมาก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากให้คนอื่น"เชื่อ" ในสิ่งที่คุณเขียน
.....คุณต้อง "เชื่อ" ในสิ่งนั้นก่อน"
เอาเป็นว่า ณ วันนี้
นัทสิมายังไม่เชื่อว่ารัฐประหารเป็นสิ่งที่พึงกระทำในระบอบประชาธิปไตย
Comments:
<< Home
louis vuitton, longchamp outlet, nike outlet, oakley sunglasses, uggs outlet, ray ban sunglasses, longchamp outlet, tory burch outlet, oakley sunglasses, prada handbags, polo outlet, michael kors outlet, longchamp outlet, nike air max, louis vuitton, oakley sunglasses wholesale, christian louboutin, burberry outlet, ray ban sunglasses, christian louboutin uk, michael kors outlet online, gucci handbags, burberry handbags, kate spade outlet, ray ban sunglasses, michael kors outlet online, ugg boots, tiffany jewelry, nike air max, louis vuitton outlet, cheap oakley sunglasses, replica watches, christian louboutin shoes, michael kors outlet online, christian louboutin outlet, nike free, prada outlet, louis vuitton outlet, jordan shoes, chanel handbags, uggs outlet, uggs on sale, oakley sunglasses, replica watches, tiffany and co, michael kors outlet, louis vuitton outlet
north face, louboutin pas cher, true religion outlet, nike tn, nike roshe run uk, nike air max, polo lacoste, lululemon canada, nike air force, vans pas cher, nike free run, kate spade, hollister uk, michael kors, mulberry uk, michael kors pas cher, polo ralph lauren, oakley pas cher, burberry pas cher, converse pas cher, longchamp pas cher, jordan pas cher, replica handbags, coach purses, true religion outlet, guess pas cher, timberland pas cher, coach outlet, ray ban pas cher, nike blazer pas cher, true religion outlet, michael kors, michael kors outlet, nike air max uk, sac hermes, coach outlet store online, air max, sac longchamp pas cher, true religion jeans, nike free uk, hogan outlet, sac vanessa bruno, new balance, north face uk, hollister pas cher, ray ban uk, ralph lauren uk, abercrombie and fitch uk, nike roshe, nike air max uk
Post a Comment
<< Home